ซายบาร์
จุดประสงค์การ เรียนรู้
จุดประสงค์ทั่วไป เข้าใจเกี่ยวกับซายบาร์
จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม หลังจากนักศึกษาผ่านการเรียนหน่วยนี้แล้วจะแสดงพฤติกรรม
ดังต่อไปนี้
1.บอกลักษณะสร้างของซายบาร์ได้
2.บอกลักษณะการวัดงานด้วยซายบาร์ได้
3.อธิบายการวัดมุมด้วยซายบาร์ได้
4.บอกการกำหนดขนาดของซายบาร์ได้
5.บอกการกำหนดคุณภาพของซายบาร์ได้
6.อธิบายวิธีการใช้ซายบาร์ได้
7.ความสำคัญของการสอบเทียบมาตรฐานเครื่องมือวัดได้
8.บอกข้อควรระวังในการใช้ซายบาร์ได้
ซายบาร์
1. ลักษณะสร้างของซายน์บาร์
ลักษณะสร้างที่สำคัญของซายน์บาร์ คือลำตัวเป็นแท่งสี่เหลี่ยมยาว ที่ปลายทั้งสองด้านทำเป็นบ่าฉากและมีเพลากลมติดอยู่ เพลากลมทั้งสองมีขนาดเท่ากัน ผิดด้านบนของซายน์บาร์ที่อยู่ตรงข้ามกับเพลากลมทั้งสองเป็นผิวขัดที่ราบและเรียบมากใช้สำหรับวางชิ้นงาน ผิววางงานนี้จะอยู่ห่างจากจุดศูนย์กลางของเพลากลมทั้งสองเท่ากัน ตรงกลางลำตัวของซายน์บาร์บางแบบจะเจาะรูเพื่อลดน้ำหนักและสะดวกในการใช้งานทั้งลำตัวและเพลากลมของซายน์บาร์ทำจากเกล็กเครื่องมือผ่านการชุบผิวแข็ง เจียระไนและขัดผิวจนได้ขนาดและความเรียบตามที่ต้องการ
ลักษณะสร้างของซายน์บาร์มีหลายลักษณะทั้งนี้เพื่อให้เลือกใช้ได้เหมาะกับลักษณะของงานแต่ทุกลักษณะจะต้องอาศัยหลักการเดียวกัน
2. ลักษณะงานที่วัดด้วยซายน์บาร์
การวัดหรือตรวจสอบมุมภายนอกของงานที่มีลักษณะเป็นเหลี่ยมและมีมุมไม่ควรเกิน 45 ให้ได้ค่าวัดองศาที่ละเอียดถึงลิปดาหรือฟิลิปดา ไม่สามารถวัดได้โดยตรงด้วยเครื่องมือวัดเพียงชนิดเดียวจะต้องวัดด้วยวิธีผสมกัน คือใช้เครื่องมือวัดหลายชนิดร่วมกัน แล้วจึงคำนวณหาค่าวัดองศาที่แท้จริงของชิ้นงานชุดเครื่องมือวัดที่ใช้ประกอลกันเพื่อคำนวณค่าวัดองศาของชิ้นงานที่ใช้งานสะดวก และรวดเร็วให้ค่าองศาละเอียดมากมีชื่อเรียกว่า “ซายน์บาร์”
3. วิธีการวัดมุมด้วยไซน์บาร์ (Sine bar)
การวัดมุมด้วยไซน์บาร์ ใช้เมื่อต้องการจะวัดงานหรือปรับตั้งชิ้นงานเพื่อให้ได้มุมที่ละเอียดเที่ยงตรงไซน์บาร์เป็นแท่งที่ทำด้วยเหล็กกล้า ผ่านการเจียระไน และขัดผิวจนมัน (Iapping) ประกอบด้วยเพลากลมซึ่งติดอยู่ที่ปลายทั้งสองของแท่ง ขนาดของเพลากลมทั้งสองจะเท่ากน และผิวหน้าเรียบหรือผิววางงานของไซน์บาร์ จะขนานกันเส้นผ่านศูนย์กลางของเพลากลมทั้งสองและระยะห่างระหว่างจุดศูนย์กลางของเพลา จะเป็นขนาดของไซน์บาร์ เช่น ระยะห่างระหว่างจุดศูนย์กลางของเพลาทั้งสองเท่ากัน 250 มม. (หรือ 10 นิ้ว) จะเรียกว่า เป็นไซน์บาร์ขนาด 250 มม. (หรือ 10 นิ้ว) เป็นต้น ไซน์บาร์มีหลายขนาดจะใช้ร่วมกับแท่นระดับและเกจเหลี่ยม (gauge block) และโดยเหตุที่มีการคำนวณใช้ค่ามุมของไซน์บาร์ (Sine)จึงเรียกเกจชนิดนี้ว่า ไซน์บาร์
4. การกำหนดขนาดของซายน์บาร์
ซายน์บาร์มีหลายขนาดทั้งนี้เพื่อให้เลือกใช้ให้เหมาะกับขนาดความยาวของชิ้นงาน ขนาดของซายน์บาร์มักจะเป็นจำนวนเต็มเพื่อง่ายต่อการคำนวณ เช่น 100มม. 200 มม. ฯลฯ โดยคิดจากระยะห่างระหว่างจุดศูนย์กลางของเพลากลมทั้งสอง
5. การกำหนดคุณภาพของซายน์บาร์
ก่อนใช้ซายน์บาร์วัดมุมของชิ้นงานจะต้องเลือกซายน์บาร์ให้มีคุณภาพเหมาะกับค่าความละเอียดที่ต้องการเช่นงานที่ต้องการวัดค่าองศาที่ละเอียดมาก ๆ จะต้องเลือกใช้ซายน์บาร์ที่มีคุณภาพที่ดีกว่างานที่ไม่ต้องการค่าวัดองศาที่ละเอียดมากนัก ตามปกติแล้วคุณภาพของซายน์บาร์มี 2 เกรด คือเกรด A และเกรด B โดยคิดจากค่าผิดพลาดของระยะห่างระหว่างจุดศูนย์กลางของเพลากลมทั้งสองคือ
เกรด A ระยะห่างหระหว่างจุดศูนย์กลางของเพลากลมทั้งสองผิดพลาดได้ไม่เกิน 2.5 mm
เกรด B ระยะห่างระหว่างจุดศูนย์กลางของเพลากลมทั้งสองผิดพลาดได้ไม่เกิน 5.5 mm
นอกจากนี้ซายน์บาร์ที่ถือว่ามีคุณภาพที่ดีและสามารถนำไปใช้งานได้จะต้องมีค่าผิดพลาดตามจุดต่าง ๆ ไม่เกินค่าที่กำหนดให้ต่อไปนี้ คือ
จุดที่ 1 ผิววางงานต้องไม่หยาบเกินกว่า 2.5 mm
จุดที่ 2 ระยะห่างระหว่างผิววางงาน ถึงจุดศูนย์กลางของเพลาทั้งสองต้องไม่แตกต่าง กันเกิน 5.1 mm
จุดที่ 3 ความกลมและค่าความแตกต่างระหว่างขนาดของเพลากลมทั้งสองต้องไม่เกิน 2.4 mm
จุดที่ 4 ความขนานระหว่างจุดศูนย์กลางของเพลาทั้งสองกับผิววางงานจะต้องแตกต่างกันไม่เกิน 2.5 mm
6. วิธีใช้ซายน์บาร์
ใช้ซายน์บาร์เพื่อวัดมุมของชิ้นงาน เครื่องมืออื่น ๆ ที่ใช้ประกอบ คือเกจเหลี่ยม นาฬิกาวัด แท่นจับนาฬิกา ใบวัดมุมสากลและโต๊ะระดับ วิธีใช้ซายน์บาร์เพื่อวัดมุมของชิ้นงานนี้ก่อนอื่นต้องเลือกขนาดของซายน์บาร์ให้เหมาะสมกับขนาดของชิ้นงาน และใช้ใบวัดมุมสากลวัดมุมโดยประมาณของชิ้นงาน เพื่อนำไปคำนวณหาระยะความสูงที่แตกต่างกันของเพลาทั้งสอง(H) ประกอบเกจเหลี่ยมให้ได้ความหนาตามที่คำนวณ แล้วนำไปหนุนเพลากลมของซายน์บาร์ด้านใดด้านหนึ่งให้สูงขึ้น วางชิ้นงานลงบนผิววางงานของซายน์บาร์ ประกอบนาฬิกาวัดกับแท่นยึด เลื่อนนาฬิกาวัดเข้าหางานและปรับความสูงของนาฬิกาวัด จนหมุดสัมผัสของนาฬิกาวัดสัมผัสกับผิวงานเลื่อนนาฬิกาวัดไปมาตามความยาวของผิวงานสังเกตทิศทางและระยะที่เข็มของนาฬิกาวัดเคลื่อนที่ไปมา เพิ่มหรือลดความหนาของเกจเหลี่ยมจนได้ความหนาค่าหนึ่ง ซึ่งเมื่อเลื่อนนาฬิกาวัดไปมาแล้วเข็มของนาฬิกาวัดไม่เคลื่อนที่อีก ตำแหน่งนี้ผิวของชิ้นงานจะขนานกับผิวของโต๊ะระดับพอดี เพราะฉะนั้นถ้าสามารถคำนวณค่าวัดที่ซายน์บาร์กระทำกับโต๊ะระดับได้ก็จะทำให้ทราบค่าวัดองศาของชิ้นงานด้วย
7. ความสำคัญของการสอบเทียบมาตรฐานเครื่องมือวัด
เครื่องมือวัดถูกสร้างขึ้นสร้างขึ้นมาเพื่อช่วยให้สามารถบอกค่าที่วัดชิ้นงานต่าง ๆ ได้อย่างถูกต้องแน่นอน การที่จะเชื่อมั่นของการจัดจากเครื่องมือวัดว่ามีความถูกต้องได้ทุกครั้งนั้นเป็นสิ่งที่ต้องใช้วิจารณญารณ์ เป็นอย่างยิ่งเพราะเครื่องมือวัดที่ถูกสร้างขึ้นมาคงไม่สามารถคงสภาพการใช้งานได้ดีเหมือนเดินตลอด ต้องมีความเสื่อมสภาพไปตามกาลเวลาทำอย่างไรจึงจะสร้างความเชื่อมั่นได้ว่าทุกครั้งที่มีการวัดชิ้นงานจะได้ขนาดที่ถูกต้องเป็นจริง เครื่องมือวัดจึงเป็นสิ่งสำคัญในการวัดชิ้นงานเพื่อผลิตชิ้นส่วนต่าง ๆ ให้ได้ขนาดตามมาตรฐานที่กำหนดในแผนงานและสายการผลิต ถ้าเครื่องมือวัดขาดความถูกต้องชิ้นงานที่ออกมาจะไม่ได้มาตรฐานและที่ได้จากการวัดจึงจำเป็น
8. ข้อควรระวังในการใช้ซายน์บาร์
เนื่องจากซายน์บาร์เป็นเครื่องมือวัดที่ละเอียดอ่อน มีราคาแพงและการวัดมุมของชิ้นงานแต่ละครั้งต้องใช้เวลา ดังนั้นผู้ใช้จึงจำเป็นต้องใช้อย่างถูกวิธีและคำนึงถึงข้อควรระวังเพื่อมิให้ซายน์บาร์ชำรุดเสียหาย และได้ค่าวัดองศาที่ละเอียดตามที่ต้องการ ซึ่งต้องปฏิบัติตามกฎการใช้งานดังต่อไปนี้
1.ต้องเลือกขนาดของซายน์บาร์ให้เหมาะสมกับขนาดของชิ้นงาน
2.ต้องประกอบเกจเหลี่ยมเข้าด้วยกันอย่างถูกวิธี
3.ชิ้นงานที่จะใช้วัดมุมด้วยซายน์บาร์จะต้องมีผิวเรียบ
4.ให้วางตะแคงลงกับพื้น ห้ามวางตั้งขึ้น เพราะจะทำให้ผิววางงานหรือผิวเพลากลมชำรุดเสียหาย
5.ขณะใช้วัดมุมของชิ้นงาน ระวังอย่าให้เพลากลมพลัดตกจากเกจเหลี่ยมมากระแทกกับพื้นโต๊ะระดับ
6.ห้ามลากหรือเลื่อนซายน์บาร์ไปมาบนโต๊ะระดับ
7.ขณะใช้วัดมุมของชิ้นงาน จะต้องวางเกจเหลี่ยมตามแนวขนานกับเพลากลมของซายน์บาร์เพื่อไม่ให้
เพลากลมของซายน์บาร์พลัดตกจากเกจเหลี่ยมได้ง่าย
แบบฝึกหัดท้ายบทเรียน
ตอนที่ 1 จงเลือกข้อที่ถูกที่สุดเพียงข้อเดียว
1.การวัดมุมด้วยซายบาร์ควรมีมุมไม่เกินกี่องศา
ก. 45 องศา ข.60 องศา
ค. 90 องศา ง.120 องศา
2.เครื่องมือวัดซายบาร์ควรใช้งานร่วมกับอุปกรณ์ใด
ก.เวอร์เนียคาลิปเปอร์ ข.ไม้บรรทัด
ค.เกจบล็อค ง.ค้อนตี
3.ลักษณะสร้างของซายบาร์เป็นอย่างไร
ก.เป็นแท่งวงกลมยาว ข.เป็นแท่งสี่เหลี่ยมยาว
ค.เป็นแท่งหกเหลี่ยมยาว ง.เป็นแท่งหกเหลี่ยมสั้น
4.เพราะสาเหตุใดซายบาร์บางตัวจึงมีการเจาะรู
ก.เพื่อลดน้ำหนักและความสะดวก ข.เพื่อใช้หาค่าองศา
ค.เพื่อสำหรับวางชิ้นงาน ง.เพื่อสะดวกในการเก็บรักษา
5.ตามปกติแล้วคุณภาพของซายบาร์มีกี่เกรด
ก. 1 เกรด ข. 2 เกรด
ค. 3 เกรด ง. 4 เกรด
6.เราสามารถแบ่งวิธีการใช้ซายบาร์ออกได้เป็นกี่วิธี
ก. 1 วิธี ข. 3 วิธี
ค. 4 วิธี ง. 5 วิธี
7.คุณภาพของซายบาร์เกรด A จะมีระยะห่างระหว่างจุดศูนย์กลางของเพลากลมไม่เกินเท่าไหร่
ก. 1 mm ข. 1.5 mm
ค. 2 mm ง. 2.5 mm
8.คุณภาพของซายบาร์เกรด B จะมีระยะห่างระหว่างจุดศูนย์กลางของเพลากลมไม่เกินเท่าไหร่
ก. 4 mm ข. 4.5 mm
ค. 5 mm ง. 5.5 mm
9.ผิววางงานต้องหยาบไม่เกินเท่าไหร่
ก. 2 mm ข. 2.5 mm
ค. 3 mm ง. 3.5 mm
10.เมื่อไม่ใช้ซายบาร์ควรเก็บอย่างไร
ก.วางคว่ำลง ข.วางหงายขึ้น
ค.วางตะแคงลง ง.วางตั้งขึ้น
เฉลยแบบฝึกหัดท้ายบทเรียน
ตอนที่ 1
1.ก
2.ค
3.ข
4.ก
5.ข
6.ก
7.ง
8.ง
9.ข
10.ค
ใบงานที่ 1 | หน่วยที่ 9 | |
งานวัดละเอียด ชั้น ปวส.1 แผนกเทคนิคการผลิต 2554/1
|
สอนครั้งที่ 9
| |
ชื่อหน่วย การคำนวณวัดมุมด้วยซายบาร์.
|
จำนวนคาบ 3 คาบ
| |
ชื่องาน การคำนวณวัดมุมด้วยซายบาร์.
|
อ.วรวิทย์ ตงศิริ ผู้สอน
| |
หมายเลขชิ้นงาน…….…
ผู้สอน นาย………………………. ……………..
(อาจารย์วรวิทย์ ตงศิริ ) แผนกเทคนิคการผลิต ปวส.1 กลุ่มที่……เลขที่.......
วันที่ 2 สิงหาคม พ.ศ.2554 วันที่…….เดือน…………………..พ.ศ.2554
|